หากเราจินตนาการถึงกองหนังสือสูง ๆ แล้วเราเลือกวางเล่มที่หนักที่สุดไว้ด้านบน หนังสือทั้งกองก็มีสิทธิจะล้มได้ง่าย แต่หากเราเอาเล่มที่หนักสุดไว้ด้านล่างแทน หนังสือทั้งกองก็จะมั่นคง และล้มได้ยากกว่า
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าจุดศูนย์ถ่วง หรือว่า Center of Gravity (CG) ของกองหนังสือจะสูงหากวางเล่มหนักไว้ด้านบน จึงทำให้ล้มง่าย ในทางกลับกัน หากวางเล่มหนักไว้ด้านล่าง ก็จะทำให้ CG ต่ำ และมีความมั่นคง
รถก็เช่นเดียวกัน ถ้ายิ่ง CG ต่ำ รถก็จะพลิกคว่ำได้ยาก ถ้า CG สูงรถก็มีโอกาสจะพลิกคว่ำได้ง่าย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่ารถบัส หรือรถกระบะที่บรรทุกของสูง ๆ มักจะล้มได้ง่าย
ดังนั้นเมื่อรถเอียง แล้วเราลากเส้นตรงแทนแรงโน้มถ่วงจากจุด CG ของรถลงไปที่พื้น หากเส้นนั้นเลยฐาน (ล้อรถ) รถคันนั้นก็จะพลิกคว่ำ แต่ถ้าไม่เลยฐาน ก็จะยังคงทรงตัวอยู่ได้
ทำไมรถ EV คว่ำยาก?
รถ EV มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ซึ่งมีข้อเสียคือ เปลืองพลังงาน ทำให้ช่วงล่าง และยางทำงานหนัก แต่ก้อนแบตเตอรี่ ก็เปรียบเสมือนหนังสือเล่มหนักที่วางอยู่ด้านล่างสุด ก้อนแบตเตอรี่จะทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถอยู่ด้านล่าง ส่งผลให้จุด CG อยู่ต่ำ จึงทำให้คว่ำได้ยากนั่นเอง
นอกจากนี้เมื่อเกิดการชนด้านข้าง หากเป็นรถสันดาปทรงสูงอย่าง MPV หรือ Minivan ที่จุด CG สูง มีสิทธิจะพลิกคว่ำได้ง่าย ในขณะที่รถ EV แม้จะเป็นทรง MPV เหมือนกัน แต่ด้วยน้ำหนักแบตเตอรี่ ทำให้ CG ต่ำ และพลิกคว่ำได้ยากกว่า (ดูตัวอย่างได้จาก video นี้เป็นการชนด้านข้างของ JNCAP
https://www.youtube.com/watch?v=NaOzE9JX-Kg )
ด้วยเหตุนี้รถสันดาป และ EV ที่ขนาดไล่เลี่ยกัน รถ EV จะมี CG ต่ำกว่า และคว่ำได้ยากกว่ารถสันดาปนั่นเองครับ
ปล. ดูตัวอย่างการทดสอบ Roll-over test ของ Model Y ได้ที่ comment แรกเลยครับ
ดูตัวอย่างการชนด้านข้าง ที่ทำให้รถพลิกได้ที่ comment ที่สองครับ