ก่อนหน้านี้มีหลายคนบ่อย ๆ ถามว่ารถ Tesla ควรซื้อ Package Enhanced Autopilot (EAP) เพิ่มดีไหม ใช้งานเป็นยังไง คุ้มหรือเปล่า? ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบด้วยตัวหนังสือ อาจจะไม่ชัดเจนเท่าไร
เนื่องด้วยผมเป็นคนนึงที่ใช้งาน Navigate on Autopilot / Auto Lane Change อยู่เป็นประจำ เมื่อต้องเดินทางไปที่ต่าง ๆ จึงคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจ หากแชร์ตัวอย่างการใช้งานให้เห็นว่าการใช้งานจริง เป็นอย่างไร ใช้ได้ดี ไม่ดีตรงไหนบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
ดังนั้นในคลิปนี้ จะเป็นตัวอย่างการใช้งาน Navigate on Autopilot และ Auto Lane Change ในเส้นทางด่วนจาก สุขุมวิท 62 ไปลง เมืองทองครับ
ถึงผมจะพูดบ่อย แต่ขอเขียนอีกรอบครับว่าระบบ Autopilot / Navigate on Autopilot เป็นระบบช่วยเหลือ LEVEL 2 เท่านั้น หมายความว่า ระบบเพียงช่วยเหลือการขับขี่บางอย่างเท่านั้น ความรับผิดชอบในการควบคุมรถยังคงเป็นของคนขับ ดังนั้นในระหว่างใช้งาน จะต้องคอยประเมิณสถานการณ์ และพร้อมเข้าควบคุมตลอดเวลาครับ
********
ก่อนจะลงรายละเอียด มาดูฟีเจอร์กันก่อนครับ
Basic Autopilot, Auto Lane Change, Navigate on Autopilot
จะเป็นการใช้ Traffic Aware Cruise Control ร่วมกับ Autosteer เพื่อรักษารถให้อยู่ในเลน ไม่สามารถเปลี่ยนเลนได้ หากจะเปลี่ยนเลน ต้องยกเลิก Autopilot ก่อน เปลี่ยนเลนเสร็จค่อยเปิด Autopilot ใหม่
เมื่อเปิดไฟเลี้ยว จะสามารถเปลี่ยนเลนให้เราอัตโนมัติ โดยไม่ต้องออกจาก Autopilot เมื่อเปลี่ยนเลนเสร็จ Autopilot ก็ทำงานต่อได้เลย
คือการใช้ Autopilot ร่วมกับการนำทาง โดยเป็นการใช้ Autopilot ร่วมกับ Auto Lane Change เพื่อเปลี่ยนเลนให้เราอยู่ในเลนที่ถูก และแยกออกไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังสามารถขอเปลี่ยนเลนไปยังเลนที่เร็วกว่าได้ และลดความเร็วในโค้งเพื่อให้ Autosteer ทำงานได้ โดยไม่เกิน Limit พร้อมชะลอให้หลังลงทางด่วนก่อนเข้าทางหลัก
หรือพูดง่าย ๆ ว่า Navigate on Autopilot คือการสั่ง Auto Lane Change ให้เปลี่ยนเลนในจุดที่คิดว่าควรเปลี่ยน ไม่ว่าจะอยู่ในเลนที่ถูกต้อง หรืออยู่ในเลนที่เร็วกว่า ซึ่ง Auto Lane Change จะถามเพื่อให้เรายืนยัน หากเราไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนเลน เรากดให้ยกเลิกการเปลี่ยนเลนได้ (สามารถตั้งให้เปลี่ยนเลนเลยโดยไม่ถามเช่นกัน แต่ไม่แนะนำ)
ในการเปิดใช้ ให้ตั้งปลายทาง และใช้การนำทางบนแผนที่ หากเส้นทางไหนสามารถใช้ Navigate on Autopilot (NOA) ได้ จะมีไอคอนพวงมาลัย และเลนถนนขึ้นมา ให้กดจนเป็นสีฟ้าเป็นการเปิดการใช้งาน หลังจากนั้นให้กดก้านเกียร์ลงสองครั้ง เพื่อเปิด Autopilot ขึ้นมา หาก NOA ทำงาน เส้นคู่สีฟ้าสองเส้น จะรวมเป็นเส้นเดียวตรงกลาง
จากการใช้งานพบว่า
- ระบบจะสั่งเปลี่ยนเลนเร็วก่อนถึงแยกค่อนข้างมาก (เป็นคนขับที่ดี) แต่บางทีเปลี่ยนเร็วเกินไปหน่อย
- เมื่อระบบเปลี่ยนเลนไปขวาสุดเพื่อแซง ซักพักจะขอเปลี่ยนเลนกลับเลนกลาง จะไม่อยากให้เราแช่ขวา (เป็นคนขับที่ดี)
- ในการเปลี่ยนเลน ต้องการระยะห่าง หรือช่องว่างค่อนข้างกว้าง เพื่อใม่ให้ดูเป็นการปาดหน้า
- ระบบจะทำงานได้ดี มั่นคง ให้ความมั่นใจได้ เมื่อเส้นชัด รถไม่ตัดหน้า และไม่ต้องมีการเปลี่ยนเลน
- Auto Lane Change ไม่สามารถเปลี่ยนเลนได้ เพราะต้องการช่องว่างเยอะเกินไป ซึ่งหากรถวิ่งช้า หรือติด ๆ จะไม่มีใครเว้นช่องว่างขนาดนั้นให้เราเปลี่ยนเลน อันนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่
- Auto Lane Change เปลี่ยนเลนได้ทีละเลน ไม่สามารถเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องได้ ทำให้บางทีออกทางแยกไม่ทัน
- เมื่อรถเลนข้าง ๆ ให้ทาง Auto Lane Change ก็ไม่ยอมเปลี่ยนเลน เพราะรอช่องว่างให้ได้ตามระบบ ทำให้เสียจังหวะกันหมด
- Auto Lane Change ไม่เผื่อความเร็วของรถเลนข้าง ๆ เมื่อเห็นช่องว่างได้ ก็เปลี่ยนเลนโดยไม่ได้คำนึงถึงความเร็วของรถที่เข้ามา (รถที่ไม่ให้เข้า ไม่ชะลอให้) พอเปลี่ยนเลนไปครึ่งคัน ไม่พ้นก็ค่อยเด้งกลับเลนเดิม หรือถ้าเปลี่ยนทันก็จะกลายเป็นการตัดหน้า (ดังนั้นให้ดูความเร็วรถคันข้าง ๆ ก่อนด้วย)
- เมื่อมีรถมาขอเข้าทางหลัก รถจะชะลอหยุดให้ โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมว่าใครควรไปก่อน (Right of Way) และเลือกจะหยุดให้ทุกคันที่มาขอเข้า หรือบางทีหน้ารถอีกคันใกล้เลนเรา ก็หยุดให้เช่นกัน ทำให้เสียจังหวะกันหมด ดังนั้นเวลาใช้งาน ต้องดันคันเร่งเป็นระยะ เมื่อรถทำท่าจะหยุดในจุดที่ไม่ควรหยุด (ปัญหา Traffic Aware Cruise Control)
- เมื่ออยู่เลนซ้ายสุด และมีคนวิ่งไหล่ทาง ระบบจะจะวิ่งกลางเลนเรา โดยไม่ได้เผื่อช่องว่างให้รถไหล่ทางวิ่งได้โดยง่าย ทำให้บางทีใกล้จนเหมือนจะไปเบียดกัน (ปัญหา Autosteer)
- มีกรวยตั้งขวางเบียดเลน ถ้าเบียดไม่มากพอเบี่ยงได้ แต่ถ้าบีบมาก จะไม่หลบให้ (Basic Autopilot เช่นกัน)
- เมื่อเปลี่ยนเลนออกทางแยก ช่วงแรกมักจะไม่มีเลนถนน ตรงนี้ถ้าไม่มีรถนำ ระบบจะวางแผนเส้นทางวิ่งไม่ได้ อาจจะมีลังเลซ้ายขวา ๆ (ปัญหา Autosteer)
- ไม่สามารถใช้ได้ทุกเส้นทาง ใช้ได้เฉพาะที่ Tesla ระบุไว้ใน Map เท่านั้น
- เมื่อรถติด ๆ Traffic Aware Cruise Control เบรค และเร่งไม่นุ่มนวล ชวนเวียนหัว (ปัญหา Autopilot)
- ระบบไม่ได้เปลี่ยนเลนให้อยู่ในเลนที่ไปได้เร็วที่สุด ถ้ารีบ ควรขับเองมากกว่าใช้ NOA
ในการใช้งาน Navigate on Autopilot ให้ไม่มีปัญหา
- หลีกเลี่ยงการอยู่เลนซ้าย ที่จะมีเลนอื่นมาเชื่อม ไม่งั้นหยุดรอทุกคัน หรือปิดระบบขับเอง
- หลีกเลี่ยงการอยู่เลนซ้าย เพราะบางทีเจอรถวิ่งไหลทาง แล้วเดี่ยวเบียดกัน หรือปิดระบบขับเอง
- อยู่เลนกลาง หรือขวาจะใช้งานได้สบายยาว ๆ
- เมื่อรถเริ่มติด ระบบขอเปลี่ยนเลนไม่ได้ ให้ปิดระบบขับเอง
- เมื่อเจอทางแยกที่ออกจากทางหลัก มักจะไม่มีเส้นถนน ระบบอาจจะหาช่องทางวิ่งไม่ได้ ให้ปิดระบบขับเอง
จุดเด่นของ Navigate on Autopilot ที่ต่างจาก Basic Autopilot ก็คือ Auto Lane Change แต่ปัญหาคือเมื่อรถเยอะ Auto Lane Change จะทำงานได้ไม่ดีพอ จนบางทีต้องเปลี่ยนเลนเอง เมื่อ Auto Lane Change ใช้ไม่ได้ Navigate on Autopilot ก็แทบจะไม่ต่างจาก Basic Autopilot เลยก็ว่าได้
แต่ถึง Auto Lane Change ดูจะมีปัญหาก็จริง แต่ก็เป็นปัญหาเฉพาะเมื่อรถเยอะเท่านั้น หากรถไม่เยอะ ถนนโล่ง ๆ Navigate on Autopilot และ Auto Lane Change จะใช้งานได้ดีประมาณนึง
ส่วนมาก ผมจะเปิด Navigate on Autopilot เพื่อให้ชะลอตามโค้งต่าง ๆ ให้ และเลือกที่จะเปลี่ยนเลนเองด้วยการใช้ Auto Lane Change ตามความเหมาะสมมากกว่า และหากรถติด ก็ยกเลิกระบบเพื่อเปลี่ยนเลนเอง และค่อยเปิดต่อ เมื่อไม่ต้องเปลี่ยนเลนไปไหน
ใน Package EAP ฟีเจอร์ผมชอบคือ Auto Lane Change เพราะเปลี่ยนเลนได้โดยไม่ต้องออกจาก Autopilot ถึงจะมีข้อจำกัดในการขอเปลี่ยนเลน แต่ก็เฉพาะเมื่อรถติด เมื่อถนนโล่ง ระบบทำงานได้ค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตามใน Navigate on Autopilot กับ Auto Lane Change เป็นเพียง 2 ฟีเจอร์ใน Enhanced Autopilot Package เท่านั้น ยังมี Autopark และ Summon / Smart Summon อยู่ด้วย ทั้งหมดนี้ในราคา 122,000 บาท ถ้าพูดให้สั้นคือ Autopark ระบบไม่ค่อยตรวจเจอที่จอด ทำให้ไม่ค่อยได้ใช้ ส่วน Smart Summon 95% ใช้ไม่ได้ตามที่คาด ที่ใช้บ่อยสุด ๆ คือ Summon และมีประโยชน์มาก ซึ่งผมจะมารีวิวตามหลังอีกที
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์จากการใช้งาน Navigate on Autopilot และ Auto Lane Change ส่วนจะคุ้ม หรือไม่คุ้ม ควรเพิ่มหรือไม่ ก็แล้วแต่ความคุ้มของแต่ละคนครับ แต่ส่วนตัวผม ถึงปัญหาจะเยอะ แต่ผมว่าคุ้มสำหรับผมครับ หวังว่าข้อมูลนี้ และคลิปนี้ จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
สวัสดีครับ
ปล.ถ้าคุณผู้ชมคิดว่าคลิปแบบนี้มีประโยชน์ หลังจากนี้ผมจะพยายามทำคลิปให้มากขึ้น
ฝากติดตาม YouTube https://www.youtube.com/@short-specs ด้วยครับ
และหากคุณผู้อ่านคนไหน สนใจเทสลาต้องการทดลองขับ หรือสั่งจอง ฝากจองผ่าน Referal Link นี้ https://bit.ly/3T4a2Sk เพื่อเป็นการสนับสนุนเพจด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
บทความอื่นที่น่าสนใจ
• การขับขี่อัตโนมัติ LEVEL 2 / LEVEL 3
• รวมบทความความรู้พื้นฐานรถไฟฟ้า 2023
• LiDAR vs CAMERA
• Best LiDAR