วันนี้ Rever เปิดราคา DENZA D9 ที่เป็น MPV หรูขนาดใหญ่ มาด้วยราคาที่น่าสนใจมาก โดยเปิดรุ่นเริ่มต้น PREMIUM มาที่ 2 ล้านบาท มอเตอร์เดี่ยว และ AWD Performance รุ่นท็อปมาในราคา 2.6999 ลบ. ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับ Segment ของรถ 7 ที่นั่ง
สเปคเบื้องต้นของ D9 เป็นดังนี้
ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ 103 kWh (ระบบแบตยังไม่ชัดเจนว่า 400v หรือ 800v แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าจะ 800V เหมือนจีน) ชาร์จกำลังสูงสุด 166 kW DC และ 11 kW AC
รุ่น PREMIUM ให้ระยะวิ่งประมาณ 471 กม. EPA (600 km NEDC) โดยรุ่นเริ่มต้นที่เป็นมอเตอร์เดี่ยวขับหน้า ให้กำลัง 312 แรงม้า (PS) แรงบิด 360 Nm 0-100 กม/ชม. 9.5 วินาที
รุ่น Performance AWD ให้ระยะวิ่ง 455 กม. EPA (580 km NEDC) โดยใช้มอเตอร์คู่ ให้กำลัง 374 แรงม้า (PS) 470 Nm 0-100 กม/ชม. 6.9 วินาที
สิ่งที่แตกต่างกันหลัก ๆ นอกจากกำลังคือ ช่วงล่างแบบ DiSus-C เป็นระบบ body control ที่จะปรับ Damping ได้แบบเรียลไทม์ (CDC), เบาะ NAPPA และการตกแต่งบางอย่าง
หากเทียบกับคู่แข่ง น่าสังเกตุว่าระยะวิ่งน้อยกว่า ZEEKR 009 และ X9 พอสมควร แม้ว่าแบตจะใกล้เคียงกัน คาดว่าน่าจะเป็นเพราะน้ำหนักของตัวรถ และมอเตอร์ที่กำลังไม่เยอะจึงทำให้ load สูงกว่า หากคิด Consumption จากระยะวิ่ง EPA จะได้ประมาณ 21.86 kWh/100 กม.
ส่วนเรื่องการชาร์จ ด้วยขนาดแบตที่ใหญ่ ทำและกำลังชาร์จ 166 kW นั้น อาจจะได้ความเร็วประมาณ 1.2-1.5C เท่านั้น ทำให้ชาร์จ SOC 10-80% จะใช้เวลาประมาณ 38 นาที ซึ่งถือว่าไม่ได้ช้า แต่ก็ไม่ได้เด่นสำหรับรถยุคนี้ครับ
ด้านพละกำลัง น่าจะพอใช้พอดี ๆ ไม่ได้แรงมากมาย ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับบุคลิกของรถแบบนี้ และถึงระยะวิ่งจะน้อยกว่าคู่แข่ง แต่ก็ยังมากเพียงพอกับการเดินทางต่างจังหวัดสบาย ๆ ครับ
สรุปโดยรวม นอกจาก DiSus แล้ว ระบบขับเคลื่อน และระบบไฟฟ้าไม่ได้มีอะไรโดดเด่นครับ เป็นรถที่เน้นห้องโดยสารมากกว่า
หากดูจากสเปคนับว่ารุ่นเริ่มต้นน่าสนใจมากที่สุด ด้วยความสบายในห้องโดยสาร ขนาดรถ ความหรูหรา และด้วยราคานี้ ทำให้ D9 มองข้ามได้ยากจริง ๆ
หลังจากนี้ น่าจะต้องรอดู X9 ว่าจะเปิดราคามาเท่าไร และต้องดูว่า MAXUS 9 จะมีการปรับราคามาสู้หรือไม่ สำหรับคนที่สนใจรถ Segment นี้ D9 ถือว่าราคาดีน่าสนใจ แต่ถ้าไม่ได้รีบ รอเปิดตัว X9 ก่อน ก็จะพอเห็นทิศทางราคา และตัวเลือกมากขึ้นครับ